ธรรมโฆษณ์
        ๒. 
        อริยสัจจากพระโอษฐ์ 
        โดย 
        
        ท่านพุทธทาส ภิกขุ
        สวนโมกขพลาราม ไชยา สุราษฎร์ธานี
ได้รับอนุญาตให้เผยแผ่เป็นธรรมทานจากธรรมทานมูลนิธิ
        สวนโมกขพลาราม อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี
        (ประวัติท่านพุทธทาสภิกขุเชื่อมต่อจากเว็บไซต์ พุทธทาส.คอม 
        เพื่อการเผยแพร่เท่านั้น)
        ฉบับสำเนาเอื้อเฟื้อโดยพระสมภพ สุเมโธ ดอนเคี่ยม สวนโมกขพลาราม ไชยา
         เสียงการอ่านหนังสือธรรมโฆษณ์ ๑. พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ 
        โดยอาจิต โตเกียรติรุ่งเรือง
| ธรรมโฆษณ์ ๒. อริยสัจจากพระโอษฐ์ | |||
| ภาคต้น | |||
๐๑  | 
      ตรัสรู้แล้ว ทรงรำพึงถึงหมู่สัตว์ 31:43  | 
      ||
๐๒   | 
      ผู้ไม่รู้อริยสัจ ย่อมหลงสร้างเหวแห่งความทุกข์เพื่อตัวเองอยู่ร่ำไป 30:02 | ||
๐๓  | 
      ยังมีพวกบริโภคกาม โดยไม่จมกาม 31:56 | ||
๐๔  | 
      พระพุทธองค์ คือผู้ทรงชี้ให้รู้จักทุกข์ 32:32 | ||
๐๕  | 
      สาวกมาอยู่อาศัยพระองค์ เพราะทรงตอบปัญหาอริยสัจไดู้้ 30:28 | ||
๐๖   | 
      สัจจะ และหลักพึงปฏิบัติเกี่ยวกับการถึงสัจจะ 30:39 | ||
๐๗  | 
      การรู้อริยสัจ ควรแลกเอาแม้ด้วยการถูกแทงด้วยหอกวันละ ๓๐๐ ครั้ง ๑๐๐ ปีู้ 30:23 | ||
๐๘  | 
      อริยสัจสี่โดยสังเขป (อีกนัยหนึ่ง ทรงแสดงด้วยอายตนะหก) 32:21 | ||
๐๙  | 
      ทุกขนิโรธอริยสัจ 31:25  | 
      ||
๑๐  | 
      มหาภูติคือธาตุสี่ 31:52 | ||
๑๑  | 
      ประมวลเรื่องน่ารู้พิเศษ เกี่ยวกับเวทนา 32:10 | ||
๑๒  | 
      ข้อความกำหนด เกี่ยวกับเวทนา 30:28 | ||
๑๓  | 
      วิภาคแห่งปัญจุปาทานขันธ์์ 31:07 | ||
๑๔  | 
      การถูกตราหน้า เพราะตายตามเบญจขันธ์ 31:29 | ||
๑๕  | 
      เหตุปัจจัยของเบญจขันธ์ ก็เป็นอนัตตา 31:26 | ||
๑๖  | 
      ไม่พ้นทุกข์ เพราะติดอยู่ในอายตนะ 31:11 | ||
๑๗  | 
      ที่เกิดแห่งอุปาทาน 32:58 | ||
๑๘  | 
      กามเปรียบด้วย ผลไม้์ 37:08 | ||
๑๙  | 
      สิ่งที่ต้องรู้ ต้องละ เพื่อความสิ้นทุกข์ 31:50 | ||
๒๐  | 
      อาการเกิดขึ้นแห่งความทุกข์ อีกปริยายหนึ่ง 31:21 | ||
๒๑  | 
      จิตที่ไม่มีตัณหา เรียกว่าอยู่คนเดียว 32:53 | ||
๒๒  | 
      ตัณหาเจริญ เพราะมิจฉาทิฏฐิในปิยรูป - สาตรูป 32:59 | ||
๒๓  | 
      รายละเอียดที่ควรศึกษา เกี่ยวกับอาสวะ 31:10 | ||
๒๔  | 
      ละกิเลสตัณหาได้ คือละเบญจขันธ์ได้ 30:45 | ||
๒๕  | 
      นิทเทศ ๑๐ ว่าด้วย ธรรมเป็นที่ดับแห่งตัณหา 36:53 | ||
๒๖  | 
      นิพพานอธิวจนะ 32:16 | ||
๒๗  | 
      นิพพานที่เห็นได้เอง (เมื่อบุคคลนั้นรู้สึกต่อความสิ้นราคะ -โทสะ-โมหะ) 34:52 | ||
๒๘  | 
      ปุพเพนิวาสานุสสติญาณที่แท้จริง (ซึ่งไม่เป็นสัสสตทิฏฐิ) 30:13 | ||
๒๙  | 
      หยุดถือมั่น-หยุดหวั่นไหว 35:57 | ||
๓๐  | 
      อนุปุพพวิหารอาพาธ 34:27 | ||
๓๑  | 
      วิมุตติ ไม่มีความต่างกันตามวรรณะของผู้ปฏิบัติ 33:24 | ||
๓๒  | 
      ความลดหลั่นแห่งพระอริยบุคคลผู้ปฏิบัติอย่างเดียวกัน 31:22 | ||
๓๓  | 
      แว่นส่องความเป็นพระโสดาบัน 31:32 | ||
๓๔  | 
      พระอริยบุคคลผู้ต้องใช้สังขารธรรมต่างกัน ๔ ประเภท 33:53 | ||
๓๕  | 
      ผู้มีคุณลักษณะพิเศษของพระอรหันต์ 30:36 | ||
๓๖  | 
      อาสวะส่วนที่ละได้ด้วยการเว้น 32:55 | ||
๓๗  | 
      ผู้รอดไปได้ ไม่ตายกลางทาง 32:41 | ||
๓๘  | 
      ผู้ปัญญาวิมุตต์ (ตามคำของปพระอานนท์) 30:41 | ||
๓๙  | 
      วิชชาของผู้ถึงซึ่งวิชชา 29:21 | ||
๔๐  | 
      พระอรหันต์ตายแล้วสูญหรือ 30:44 | ||
๔๑  | 
      สมณะสี่ประเภท 32:36 | ||
๔๒  | 
      ระดับต่าง ๆ แห่งบุคคลผู้ถอนตัวขึ้นจากทุกข์ 30:37 | ||
๔๓  | 
      อาการดับแห่งตัณหาในนามแห่งนันทิ 31:42 | ||
๔๔  | 
      รู้จักอุปาทาน ต่อเมื่อหมดอุปาทาน 31:44 | ||
๔๕  | 
      เมื่อสังโยชน์เหมือนเครื่องหวายสิ้นอายุ 33:09 | ||
๔๖  | 
      อาการที่ตัณหาไม่นำไปสู่ภพใหม่ ให้เกิดผลพิเศษอีกนานาประการ 31:32 | ||
๔๗  | 
      สติปัฏฐานบริบูรณ์ เพราะอานาปานสติบริบูรณ์ 22:25 | ||
| ภาคปลาย | |||
๔๘  | 
      คำชี้ชวนวิงวอน 33:30 | ||
๔๙  | 
      ผลแห่งสุขัลลิกานุโยคของสัมมาทิฏฐิ 30:55 | ||
๕๐  | 
      ลักษณะหนทางแห่งความหมดจด 31:24 | ||
๕๑  | 
      ปรารภสติปัฏฐานแล้ว มรรคก็เป็นอันปรารภด้วย 32:37 | ||
๕๒  | 
      เกี่ยวกับอุปาทาน 31:50 | ||
๕๓  | 
      ทิ้งเสียนั่นแหละ กลับจะเป็นประโยชน์ 33:52 | ||
๕๔  | 
      ขั้นตอนอันจำกัด แห่งปัจจัยของปัญญาขันธ์ 25:51 | ||
๕๕  | 
      อัสสาทะ-อาทีนวะ-นิสสระณะ ของกาม 25:53 | ||
๕๖  | 
      การทำให้เกิดสัมมาทิฏฐิ เมื่อมีปัญหาระหว่างลัทธิ 35:13 | ||
๕๗  | 
      สัมมาทิฏฐิในอาเนญชสัปปายปฏิปทา 31:33 | ||
๕๘  | 
      ว่าด้วยอานิสงค์ของสัมมาทิฏฐิ 32:42 | ||
๕๙  | 
      การเห็นความปฏิกูลแห่งยศ-อาหาร-ความรัก-สุภะ-ผัสสะ-อุปาทาน 31:17 | ||
๖๐  | 
      ว่าด้วยปกิณณกะ 33:59 | ||
๖๑  | 
      เห็นผิดจากธรรมชาติ ก็ไม่อาจทำให้แจ้งมรรคผล 31:06 | ||
๖๒  | 
      วิธีพิจารณา เพื่อกำจัดอกุศลวิตก 31:36 | ||
๖๓  | 
      นิเทศ ๑๖ ว่าด้วย สัมมาวาจา 31:55 | ||
๖๔  | 
      ตัวอย่างแห่งสัมผัปปลาปวาทระดับครูบาอาจารย์ 29:50 | ||
๖๕  | 
      การดำรงชีพชอบโดยทิศหก ของฆราวาส 29:45 | ||
๖๖  | 
      การดำรงชีพชอบ ตามหลักอริยวงศ์ 30:25 | ||
๖๗  | 
      ว่าด้วยอานิสงส์ของสัมมาอาชีวะ 33:08 | ||
๖๘  | 
      บุพพภาคแห่งการทำความาเพียรเพื่อความสิ้นอาสวะ (อีกนัยหนึ่ง) 34:09 | ||
๖๙  | 
      ผู้มีลักษณะควรประกอบความเพียร 33:15 | ||
๗๐  | 
      สมัยที่ไม่เหมาะสมสำหรับการทำความเพียร 33:49 | ||
๗๑  | 
      ธรรมเป็นอุปการะเฉพาะ แก่อานาปานสติภาวนา 33:15 | ||
๗๒  | 
      สติปัฎฐานสี่บริบูรณ์ ย่อมทำให้โพชฌงค์ให้บริบูรณ์ 31:18 | ||
๗๓  | 
      หมวดนวสีวถิกา (คือกาย) 32:28 | ||
๗๔  | 
      อุบายแห่งการดำรงจิตในสติปัฏฐาน 31:56 | ||
๗๕  | 
      สติในการเผชิญโลกธรรม ของอริยสาวก 32:24 | ||
๗๖  | 
      มีสุขวิหารอันสงบเย็น 31:21 | ||
๗๗  | 
      กองอกุศลและกองกุศล ชนิดแท้จริง 29:13 | ||
๗๘  | 
      กลุ่มสัมมาวาจา 30:11 | ||
๗๙  | 
      การบรรลุปฐมฌาน พร้อมทั้งอุปมา 31:07 | ||
๘๐  | 
      หมวดพรหมวิหาร 32:54 | ||
๘๑  | 
      ว่าอานิสงส์ของสัมมาสมาธิ 40:45 | ||
๘๒  | 
      ว่าอานิสงส์ของสัมมาสมาธิ 29:40 | ||
๘๓  | 
      สัมมัตตะในนามว่า อริยมรรค 30:23 | ||
๘๔  | 
      ธรรม-อธรรม-อรรถ-อนรรถ ที่ควรทราบ 31:23 | ||
๘๕  | 
      อัฏฐังคิกมรรค เป็นสัญญลักษณ์ของพระศาสนาที่มีความหลุดพ้น 32:27 | ||
๘๖  | 
      ว่าด้วย การทำหน้าที่ของมรรค 29:50 | ||
๘๗  | 
      ลักษณะแห่งผู้เป็นเสขปาฏิบท 29:53 | ||
๘๘  | 
      พิธีปลงบาป ด้วยสัมมัตตปฏิปทา 31:43 | ||
๘๙  | 
      อาการที่เรียกว่า อัฏฐังคิกมรรคบริบูรณ์ได้โดยวิธีลัด 30:01 | ||
๙๐  | 
      ภาวะบริสุทธิ์ที่สำหรับถือเป็นหลัก 32:42 | ||
๙๑  | 
      การเรียนปริยัติ มิใช่การรู้อริยสัจ 32:33 | ||
๙๒  | 
      หลักวิธีการศึกษาอริยสัจสี่ ใช้ได้กับหลักทั่วไป 32:41 | ||
๙๓  | 
      ประมวลปัญหาอันจะพึงตอบเกี่ยวกับธรรมทั้งปวง 32:27 | ||
๙๔  | 
      สมาธิขันธ์ 29:07 | ||
๙๕  | 
      ลักษณะความสะอาด-ไม่สะอาด ในอริยวินัย 17:52 | ||